Advance Payment Standby Letter of Credit 
Advance Payment SBLC (ในมุมมองของผู้ซื้อ)
ข้อดีและข้อเสียของ Advance Payment SBLC
ซื้อประกันการค้าจาก SBLC

เจาะลึก Advance Payment Standby Letter of Credit (SBLC) เครื่องมือลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจในการรับเงินล่วงหน้า

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การทำธุรกรรมระหว่างประเทศหรือโครงการขนาดใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการรับเงินล่วงหน้า (Advance Payment) ซึ่งอาจสร้างความกังวลให้กับผู้รับเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ผู้จ่ายเงินจะไม่ปฏิบัติตามสัญญา Advance Payment Standby Letter of Credit (SBLC) จึงเป็นเครื่องมือทางการเงินที่เข้ามาช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการรับเงินล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเจาะลึกทุกขั้นตอนเกี่ยวกับ Advance Payment SBLC เพื่อให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม

1. SBLC คืออะไร?

Standby Letter of Credit (SBLC) คือ หนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคาร เพื่อรับประกันการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินของลูกค้า (ผู้ขอ SBLC) ต่อผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary) โดยธนาคารจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ หากลูกค้าไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ใน SBLC ได้

2. Advance Payment SBLC คืออะไร?

Advance Payment SBLC เป็น SBLC ประเภทหนึ่งที่ใช้เฉพาะเจาะจงสำหรับการรับประกันการคืนเงินล่วงหน้า ในกรณีที่ผู้รับเงินล่วงหน้าไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือส่งมอบสินค้า/บริการตามที่ตกลงไว้ ผู้จ่ายเงินล่วงหน้า (ผู้รับผลประโยชน์) สามารถเรียกร้องเงินคืนจากธนาคารผู้ออก SBLC ได้

3. ใครที่ควรใช้ Advance Payment SBLC?

  • ผู้รับเหมา: ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ผู้รับเหมามักต้องการเงินล่วงหน้าเพื่อจัดซื้อวัสดุและเริ่มต้นโครงการ Advance Payment SBLC ช่วยให้ผู้ว่าจ้างมั่นใจในการจ่ายเงินล่วงหน้า

  • ผู้ส่งออก: ในการค้าระหว่างประเทศ ผู้ส่งออกอาจต้องการเงินล่วงหน้าเพื่อผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อ Advance Payment SBLC ช่วยให้ผู้นำเข้ามั่นใจในการจ่ายเงินล่วงหน้า

  • ผู้นำเข้า: ในบางกรณี ผู้นำเข้าอาจต้องการจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อให้ได้ราคาที่ดี หรือเพื่อให้ผู้ขายเริ่มต้นการผลิต Advance Payment SBLC ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินล่วงหน้าหากผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้า

  • ธุรกิจที่ต้องการรับเงินล่วงหน้าสำหรับโครงการขนาดใหญ่: ธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนล่วงหน้าสำหรับโครงการขนาดใหญ่ สามารถใช้ Advance Payment SBLC เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ให้ทุน

ขั้นตอนการขอให้ผู้ขายจัดหา Advance Payment SBLC (ในมุมมองของผู้ซื้อ)

  1. การเจรจาและตกลง: ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงที่จะใช้ Advance Payment SBLC เป็นหลักประกัน โดยระบุเงื่อนไขต่างๆ ในสัญญา เช่น วงเงิน SBLC ระยะเวลา และเงื่อนไขการเรียกร้อง
  2. การขอ SBLC จากผู้ขาย: ผู้ซื้อแจ้งความต้องการให้ผู้ขายจัดหา SBLC จากธนาคารของผู้ขาย
  3. การขอ SBLC ของผู้ขาย: ผู้ขายติดต่อธนาคารของตนเพื่อขอออก SBLC โดยยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สัญญาซื้อขาย เอกสารทางการเงิน
  4. การพิจารณาอนุมัติ: ธนาคารของผู้ขายพิจารณาอนุมัติการออก SBLC โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขาย
  5. การออก SBLC: เมื่อได้รับการอนุมัติ ธนาคารของผู้ขายจะออก SBLC ให้แก่ผู้ซื้อ (ผู้รับผลประโยชน์)
  6. การส่งมอบ SBLC: ธนาคารของผู้ขายส่งมอบ SBLC ให้แก่ผู้ซื้อโดยตรง หรือผ่านธนาคารของผู้ซื้อ (ถ้ามี)
  7. การตรวจสอบ SBLC: ผู้ซื้อควรตรวจสอบรายละเอียดใน SBLC อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องและตรงตามข้อตกลงในสัญญา
  8. การจ่ายเงินล่วงหน้า: หลังจากตรวจสอบ SBLC และมั่นใจว่าถูกต้อง ผู้ซื้อจึงจ่ายเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้ขาย
  9. การปฏิบัติตามสัญญา: ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญา หากผู้ขายไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ ผู้ซื้อสามารถเรียกร้องเงินคืนจากธนาคารผู้ออก SBLC ได้

สิ่งที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบใน Advance Payment SBLC

  • วงเงิน SBLC: ต้องครอบคลุมจำนวนเงินล่วงหน้าที่จ่าย
  • วันหมดอายุของ SBLC: ต้องครอบคลุมระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับสินค้า/บริการ
  • เงื่อนไขการเรียกร้อง: ต้องชัดเจนและสอดคล้องกับสัญญาซื้อขาย
  • ธนาคารผู้ออก SBLC: ควรเป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงและมีความมั่นคงทางการเงิน
  • กฎหมายที่ใช้บังคับ: ระบุให้ชัดเจนว่าใช้กฎหมายใดในการตีความ SBLC

ขั้นตอนการเรียกร้องเงินจาก SBLC (ในกรณีที่ผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา)

  1. แจ้งธนาคาร: ผู้ซื้อแจ้งธนาคารผู้ออก SBLC ว่าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา และต้องการเรียกร้องเงินคืน
  2. ยื่นเอกสาร: ผู้ซื้อยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุใน SBLC เช่น หลักฐานการไม่ปฏิบัติตามสัญญา สำเนาสัญญาซื้อขาย
  3. การตรวจสอบ: ธนาคารตรวจสอบเอกสารและพิจารณาว่าการเรียกร้องถูกต้องตามเงื่อนไขหรือไม่
  4. การจ่ายเงิน: หากการเรียกร้องถูกต้อง ธนาคารจะจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ซื้อตามวงเงินที่ระบุใน SBLC

ข้อดี:

  • ลดความเสี่ยง: ลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินล่วงหน้าสำหรับผู้จ่ายเงิน และเพิ่มความมั่นใจในการรับเงินล่วงหน้าสำหรับผู้รับเงิน
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ: สร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจระหว่างคู่สัญญา
  • อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม: ช่วยให้การทำธุรกรรมที่มีการจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น
  • เป็นที่ยอมรับในระดับสากล: SBLC เป็นเครื่องมือทางการเงินที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ข้อเสีย:

  • ค่าธรรมเนียม: มีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการขอและออก SBLC
  • ความยุ่งยากในกระบวนการ: กระบวนการขอ SBLC อาจมีความยุ่งยากและใช้เวลา
  • ต้องมีวงเงินสินเชื่อ: ผู้ขอ SBLC ต้องมีวงเงินสินเชื่อกับธนาคาร

ซื้อประกันการค้าจาก SBLC สำหรับ Advance Payment SBLC: คู่มือสำหรับผู้ซื้อ

การใช้ Advance Payment SBLC เปรียบเสมือนการซื้อประกันการค้า เพื่อลดความเสี่ยงในการจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับผู้ขาย บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ซื้อสามารถใช้ SBLC เพื่อป้องกันความเสี่ยง และสิ่งที่ควรพิจารณา

1. SBLC ทำงานอย่างไรในฐานะ “ประกันการค้า”

เมื่อผู้ซื้อจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับผู้ขาย มีความเสี่ยงที่ผู้ขายจะไม่สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการตามที่ตกลงไว้ Advance Payment SBLC ทำหน้าที่เป็น “ประกัน” โดย:

  • การค้ำประกันโดยธนาคาร: ธนาคารของผู้ขาย (Issuing Bank) ออก SBLC ให้กับผู้ซื้อ (Beneficiary) โดยรับประกันว่าหากผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา ธนาคารจะจ่ายเงินคืนให้กับผู้ซื้อตามวงเงินที่ระบุใน SBLC
  • การเรียกร้องเงิน: หากเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ขายไม่สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการได้ ผู้ซื้อสามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังธนาคารเพื่อเรียกร้องเงินคืนจาก SBLC
  • ความมั่นใจ: SBLC ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในการจ่ายเงินล่วงหน้า เนื่องจากมีความปลอดภัยจากธนาคารค้ำประกัน

2. ขั้นตอนการ “ซื้อประกันการค้า” ด้วย Advance Payment SBLC (ในมุมมองของผู้ซื้อ)

  1. การเจรจาและตกลงในสัญญา: ในสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ควรระบุอย่างชัดเจนว่าการจ่ายเงินล่วงหน้าจะต้องมี Advance Payment SBLC เป็นหลักประกัน
  2. การขอ SBLC จากผู้ขาย: ผู้ซื้อแจ้งความต้องการให้ผู้ขายจัดหา SBLC จากธนาคารของผู้ขาย โดยระบุรายละเอียด เช่น วงเงิน ระยะเวลา และเงื่อนไขการเรียกร้อง
  3. การดำเนินการของธนาคาร: ผู้ขายติดต่อธนาคารของตนเพื่อขอออก SBLC โดยธนาคารจะพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ขายและออก SBLC ให้กับผู้ซื้อ
  4. การตรวจสอบ SBLC: ผู้ซื้อควรตรวจสอบรายละเอียดใน SBLC อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องและตรงตามข้อตกลงในสัญญา โดยเฉพาะ:
    • วงเงิน: ต้องครอบคลุมจำนวนเงินล่วงหน้าที่จ่าย
    • วันหมดอายุ: ต้องครอบคลุมระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับสินค้า/บริการ
    • เงื่อนไขการเรียกร้อง: ต้องชัดเจนและสอดคล้องกับสัญญาซื้อขาย
    • ธนาคารผู้ออก: ควรเป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงและมีความมั่นคงทางการเงิน
  5. การจ่ายเงินล่วงหน้า: หลังจากตรวจสอบ SBLC และมั่นใจว่าถูกต้อง ผู้ซื้อจึงจ่ายเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้ขาย
  6. การเรียกร้องเงิน (ถ้าจำเป็น): หากผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ซื้อสามารถเรียกร้องเงินคืนจากธนาคารผู้ออก SBLC โดยยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง

3. สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อ “ซื้อประกันการค้า” ด้วย SBLC

  • ค่าใช้จ่าย: แม้ว่า SBLC จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมการออก SBLC ซึ่งผู้ขายมักจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ผู้ซื้อควรตรวจสอบและตกลงกับผู้ขายในเรื่องนี้
  • ความซับซ้อน: กระบวนการขอ SBLC อาจมีความซับซ้อนและใช้เวลา ผู้ซื้อควรวางแผนล่วงหน้าและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น
  • เงื่อนไขการเรียกร้อง: ควรตรวจสอบเงื่อนไขการเรียกร้องใน SBLC อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเรียกร้องเงินคืนได้ง่ายหากเกิดปัญหา
  • ความน่าเชื่อถือของธนาคาร: ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของธนาคารผู้ออก SBLC เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารมีความมั่นคงทางการเงินและสามารถจ่ายเงินคืนได้หากมีการเรียกร้อง

4. ข้อดีของการใช้ SBLC เป็น “ประกันการค้า”

  • ลดความเสี่ยง: ลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินล่วงหน้า
  • เพิ่มความมั่นใจ: สร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรม
  • เป็นที่ยอมรับในระดับสากล: SBLC เป็นเครื่องมือที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทำให้การค้าระหว่างประเทศสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

5. ข้อแตกต่างระหว่าง SBLC กับประกันการค้าทั่วไป

  • ผู้ออก: SBLC ออกโดยธนาคาร ในขณะที่ประกันการค้าออกโดยบริษัทประกัน
  • กระบวนการ: กระบวนการเรียกร้องเงินจาก SBLC อาจแตกต่างจากกระบวนการเรียกร้องเงินจากบริษัทประกัน
  • กฎหมายที่ใช้บังคับ: SBLC มักอยู่ภายใต้กฎระเบียบของธนาคาร ในขณะที่ประกันการค้าอยู่ภายใต้กฎหมายประกันภัย

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ปรึกษาธนาคารของคุณหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม